วันอังคารที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2560

บทที่5 คุณค่าทางวรรณคดีเรื่องอุณรุท

คุณค่าทางวรรณคดีเรื่องอุณรุท

1. คุณค่าในด้านเนื้อเรื่อง บทละครเรื่องอุณรุท มีโครงเรื่องและเนื้อเรื่องที่สนุก โครงเรื่องสำคัญเป็นเรื่อง พระนารายณ์อวตาร พระไทรอุ้มสม เนื้อเรื่องสำคัญก็คือ การปราบท้าวกรุงพาณ นารายณ์อวตารสุจิตราลงมาเกิด
2. คุณค่าในด้านวรรณศิลป์
2.1 ความเหมาะสมของเนื้อเรื่องและรูปแบบ บทละครอิเหนาเป็นบทละครใน มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับกษัตริย์ กลวิธีการดำเนินเรื่องจึงยึดรูปแบบอย่างเคร่งครัด อากัปกิริยาของตัวละครต้องมีสง่า มีลีลางดงามตามแบบแผนของละครใน โดยเฉพาะการแสดงศิลปะการร่ายรำจะต้องมีความงดงาม ภาษาที่ใช้เหมาะสมกับตัวละคร จะใช้ถ้อยคำไพเราะ แสดงออกถึงอารมณ์ของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นความอาลัยอาวรณ์ ความโกรธ ความรัก การประชดประชัน กระบวนกลอนตลอดจนเพลงขับร้องและเพลงหน้าพาทย์มีความไพเราะอย่างยิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นบทละครในที่เพียบพร้อมด้วยรูปแบบของการละครอย่างครบถ้วน
2.2 การบรรยายและการพรรณนามีความละเอียดชัดเจน ทำให้เกิดจินตภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉาก เหตุการณ์ สภาพบ้านเมือง ภูมิประเทศ รวมทั้งอารมณ์และความรู้สึกของตัวละคร ผู้อ่านเกิดความรู้สึกและความเกิดความเข้าใจในบทละครเป็นอย่างดี เนื่องจากการใช้โวหารเรียบเรียงอย่างประณีต เรียบง่าย และชัดเจน






บทที่4 ข้อคิดและคุณค่าที่ได้รับ

ข้อคิดและคุณค่าที่ได้รับ

บทละครเรื่องอุณรุท มีความไพเราะมีทั้งบทรัก บทโกรธ บทเศร้า ทั้งยังสะท้อนให้เห็นความเชื่อเรื่องเทพเทวดา และประเพณีในโบราณกาลอีกด้วย


อันพระราชนิพนธ์อุณรุท                 สมมติไม่มีแก่นสาร 
ทรงไว้ตามเรื่องโบราณ                  สำหรับการเฉลิมนคร
ให้รำร้องครื้นเครงบรรเลงเล่น         เป็นที่แสนสุขสโมสร
แก่หญิงไพร่ฟ้าประชากร                ก็ถาวรเสร็จสิ้นบริบูรณ์







แหล่งที่มา https://sites.google.com/site/wrrnkhdithikhwrru/laksna-kar-taeng.

บทที่3 ลักษณะการแต่งและภาษาที่ใช้ความงามของวรรณศิลป์

ลักษณะการแต่ง

     กลอนบทละคร

ภาษาที่ใช้ความงามของวรรณศิลป์

ภยานกรส ( รสแห่งความกลัว ตื่นเต้นตกใจ)

                
 ท้าวกรุงพาณเสด็จไปบนสวรรค์
เมื่อนั้น                            เทเวศกับหมู่สาวสวรรค์
ความกลัวอสุรกุมภัณฑ์         ตัวสั่นเพียงสิ้นชีว
นางสวรรค์นั้นร้องหวีดหวีด    ตรีดตรีดอื้ออึงคะนึงมี่
ล้มลุกคลุกคลานไม่สมประดี  อุ้มจูงกันหนีอสุรา

สัลลาปังคพิไสย ( บทโศก ) 

                 พระบิดา พระมารดา ร่ำไห้หาพระอุณรุท 
เจ้าแม่เอ๋ยเจ้าดวงประทีปแก้ว มาสูญแล้วล่วงลับอับศรี
เจ้าพ่อเอ๋ยจะมัวทั่วบุรี          จะมีแต่ร่ำไรด้วยความรัก
โอ้เจ้ามาจากแม่จริงจริง        พ่อยอดมิ่งมงกุฎอาณาจักร
ร่ำพลางข้อนทรวงเข้าฮักฮัก   ซบพักตร์เกลือกกลิ้งไม่สมประดี

พิโรธวาทัง ( บทตัดพ้อ โกรธ )

                 ท้าวกรุงพาณกริ้วนางอุษา
ว่าพลางเหลือบเห็นพระบุตรี    อสุรีเกี้ยวโกรธดั่งเพลิงไหม้
เหม่อีอุษาจัญไร                  ดูดู๋เป็นได้ช่างไม่คิด
เสียแรงที่กูบำรุงเลี้ยง            พ่างเพียงสืบสายโลหิต
ความรักเปรียบปานชีวิต       แสนถนอมเป็นนิจดั่งดวงตา

นารีปราโมทย์ ( บทเกี้ยว โอ้โลม )

                 พระอุณรุทโอ้โลมนางอุษา
โฉมเอยโฉมเฉลา                     ยุพเยาว์เช่นเชื้ออัปสร
เจ้าดวงดอกฟ้าสถาวร               ขวัญอ่อนผู้ร่วมฤทัย
อย่าเคียดแค้นผินพักตร์ผลักพี่      แต่นี้หาให้ขุ่นเคืองไม่
รักเจ้าเท่าเทียมดวงใจ              จะฝากชีวิตไว้ให้นงคราญ

เสาวรจนี ( บทชมโฉม )

                  พระอุณรุทชมโฉมนางกินนรี
พิศรูปงามรูปอรชร                  เพียงทรงอัปสรสาวศรี
พิศพักตร์งามผ่องไม่ราคี           ดั่งแว่นแก้วมณีทั้งห้านาง
พิศขนงงามก่งดังคันศิลป์          เนตรนิลขำคมทั้งสองข้าง
พิศกรรณเพียงกลีบอุบลบาง      พิศปรางงามปรางดั่งปรางทอง
พิศโอษฐ์งามเอี่ยมเทียมจะแย้ม  งามนาสิกแสล้มไม่มีสอง
พิศถันงามเนื้อนวลละออง         ดั่งปทุมทองพิศอันโอฬาร์
พิศกรงามกรายเมื่อกรีดกร         พิศองค์งามอ่อนดั่งเลขา
ยิ่งพิศยิ่งเพลินจำเริญตา            พระแสนสุดเสน่หายุพาพาล 






แหล่งที่มา https://sites.google.com/site/wrrnkhdithikhwrru/laksna-kar-taeng.

วันอังคารที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2560

บทที่2 เนื้อเรื่องย่อ

เนื้อเรื่องย่อ               

             เนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรักใคร่ของอุณรุทและการอวตารมาปราบยักษ์ของพระนารายณ์ ซึ่งลงมาปราบยักษ์ชื่อท้าวกรุงพาณครองกรุงรัตนา  วันหนึ่งท้าวกรุงพาณเสด็จประพาสป่าหิมพานต์พร้อมกับไพร่พลเพื่อชมเหล่านางกินรีที่อาบน้ำในสระอโนดาต ต่อจากนั้นก็ทอดพระเนตร  ภูเขาทั้งห้า ได้แก่ เขาคันธมาทน์  เขาไกรลาส เขาจิตรกูฏ และเขาสุทัศน์ ซึ่งเขาทุกลูกประดับดับด้วยแก้ว ขณะที่เพลิดเพลินกับการชมเขาทั้งห้า ก็เกิดกำเริบฮึกเหิมจะไปชมสววรค์ คิดแล้วก็เหาะตรงไปยังเขาพระสุเมรุไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เที่ยวไล่ต้อนฝูงเทวดาและเหล่านางฟ้า  ฝูงเทวดาและเหล่านางฟ้าไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ทูลเรื่องที่ท้าวกรุงพาณขึ้นมารุกรานสวรรค์  พระอินทร์จึงไปเฝ้าพระอิศวร พระอิศวรจึงให้พระนารายณ์อวตารไปยังโลกมนุษย์ไปเกิดเป็นพระบรมจักรกฤษณ์ครองกรุงณรงกามีนางจันทมาลีเป็นพระมเหสี มีโอรสทรงพระนามว่า ไกรสุท ท้าวไกรสุทมีโอรสทรงพระนามว่า พระอุณรุท  ทรงพระนามว่า พระอุณรุทท้าวกรุงพาณปลอมตัวไปลอบชมนางฟ้าทุกวิมานเกิดกำเริบจึงไปลอบชมนางสุจิตรามเหสีของพระอินทร์ พระอินทร์พานางสุจิตรา  ไปเข้าเฝ้าพระอิศวร  นางเสียใจที่เสียรู้ท้าวกรุงพาณ จึงขอจุติลงไปแก้แค้น นางสุจิตราไปเกิดในดอกบัวในนครรัตนา พระฤาษีสุธาวาสนำไปเลี้ยง  ชื่อว่า นางอุษา ท้าวกรุงพาณขอไปเลี้ยงเป็นลูก พระฤาษีก็ยกให้
                ท้าวอุทุมราชถวายพระราชธิดาชื่อนางศรีสุดาแก่พระอุณรุท วันหนึ่งพานางศรีสุดาประพาสป่าเทวดาแปลงเป็นกวางทองมาล่อนางศรีสุดา  พระอุณรุทออกติดตามกวางตัวนั้นกวางไปถึงต้นไทรก็หายไป และหลับอยู่ใต้ต้นไทร พระไทรได้อุ้มพระอุณรุทไปสมสู่กับนางอุษา  ธิดาเจ้ากรุงพาณในรัตนานคร  โดยร่ายมนตร์ไม่ให้ทั้งสองพูดกันได้  เมื่อใกล้รุ่งพระไทรก็นำเอาพระอุณรุทกลับรถทรง พอตื่นบรรทมก็คร่ำครวญหานาง ฝ่ายนางอุษาเมื่อตื่นบรรทมก็คร่ำครวญหาเช่นกัน นางศุภลักษณ์พี่เลี้ยงอาสาวาดรูปเทวดา และท้าวพระยาให้ทอดพระเนตร  ในที่สุดได้วาดรูป พระอุณรุท นางศุภลักษณ์อาสาเหาะไปอุ้มเอาพระอุณรุท โดยเอาแหวนและสไบของนางอุษาเป็นหลักฐานแก่พระอุณรุท  พระอุณรุทมาประทับอยู่กับนางในตำหนัก  ฝ่ายกรุงณรงกาเมื่อทราบว่าพระอุณรุทหายจึงสังหารพระเพียรพิไชยพี่เลี้ยงของพระอุณรุท พระบรมจักรกฤษณ์ทราบข่าวจึงให้ท้าวไกรสุทหาทางชุบชีวิต พระนารอทมาช่วยชุบชีวิตให้  ท้าวกรุงพาณรู้เข้าให้พระยานาคมัดพระอุณรุทกับยอดปราสาทเพื่อประจาน พระบรมจักรกฤษณ์ทรงครุฑมาช่วยมอบธำมรงค์วิเศษ  ให้พระอุณรุทจึงปราบท้าวกรุงพาณได้ เมื่อชนะแล้วก็มีเรื่องหึงหวงระหว่างนางศรีสุดากับนางอุษา ท้าวไกรสุทมอบราชสมบัติแก่อุณรุท นางอุษาเป็นมเหสีฝ่ายขวา นางศรีสุดาเป็นมเหสีฝ่ายซ้าย พระอุณรุททราบข่าวจากพรานป่าว่ามีช้างมงคล ช้างเผือก  พระอุณรุทไปล้อมช้าง คิดถึงนางกินรีที่เคยเห็น ณ สระมุจลินท์ ตอนพานางอุษาไปสรงน้ำ จึงเสด็จไปหานางกินรีและได้นางกินรีทั้งห้าเป็นชายา แล้วลานางกลับไปล้อมช้าง และกลับกรุงณรงกา   สุดท้ายพระอุณรุทพามเหสีทั้งสองกลับไปครอบครองบ้านเมืองเป็นสุขต่อไป






แหล่งที่มา https://sites.google.com/site/wrrnkhdithikhwrru/laksna-kar-taeng

บทที่1 ประวัติผู้แต่ง

ประวัติผู้แต่ง


              พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระนามเดิม ทองด้วง เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก (พระอักษรสุนทรทองดี) ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันที่ ๒๐ มี.ค. พ.ศ. ๒๒๗๙ ในรัชกาลสมเด็จพระบรมโกศ ได้สมรสกับธิดาคหบดีบ้านอัมพวา ตำบลบางช้าง จังหวัดสมุทรสงคราม หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าในพ.ศ. ๒๓๑๐ แล้ว สมเด็จพระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ได้กู้อิสรภาพและสร้างกรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานี พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯได้เข้ารับราชการกับสมเด็จพระเจ้าตากสินทรงพระปรีชาสามารถในการรบจนเป็นที่โปรดปรานได้รับบรรดาศักดิ์เป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ ศึก ใน พ.ศ. ๒๓๑๙
        พ.ศ. ๒๓๒๕ เกิดจลาจลขึ้นในบ้านเมือง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงปราบปรามจนราบคาบ ข้าราชการทั้งหลาย จึงพร้อมใจกันอัญเชิญขึ้นทรงปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงสยาม เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ ทรงย้ายเมืองหลวงจากกรุงธนบุรีมาเป็นกรุงเทพมหานคร เริ่มสร้างพระบรมมหาราชวังและสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต เสร็จในปี พ.ศ. ๒๓๒๗
      พระราชกรณียกิจส่วนใหญ่ ได้แก่ การสงครามเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติหลายครั้ง ครั้งสำคัญที่สุดคือ สงครามเก้าทัพและโปรดให้ชำระกฎหมายบทต่างๆ ให้ถูกต้องและจารลงสมุดไว้เป็นหลักฐาน ๓ ฉบับในปีพ.ศ.๒๓๒๗ทรงฟื้นฟูวรรณคดีไทยซึ่งเสื่อมโทรมตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาแตกให้กลับคืนดีอีกวาระหนึ่งทรงส่งเสริมและอุปถัมภ์กวีในราชสำนักบทพระราชนิพนธ์ที่สำคัญเช่นบทละครเรื่องรามเกียรติ์และอุณรุท เป็นต้น ปัจจุบันมีวันที่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก คือ วันระลึกมหาจักรี ได้แก่ วันที่ 6 เมษายนของทุกปี จะมีพิธีถวายบังคมพระบรมรูป ณ เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า





แหล่งที่มา https://sites.google.com/site/wrrnkhdithikhwrru/laksna-kar-taeng

บทที่5 คุณค่าทางวรรณคดีเรื่องอุณรุท

คุณค่าทางวรรณคดีเรื่องอุณรุท 1. คุณค่าในด้านเนื้อเรื่อง บทละครเรื่องอุณรุท มีโครงเรื่องและเนื้อเรื่องที่สนุก โครงเรื่องสำคัญเป็นเรื่อง พร...